Secure Sockets Layer (SSL) และ Transport Layer Security (TLS) เป็นโปรโตคอลพื้นฐานที่ปกป้องข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกันบนอินเทอร์เน็ต พวกเขาทำการเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งระหว่างอุปกรณ์ของผู้ใช้และเว็บเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้แน่ใจในความลับ ความสมบูรณ์ และความถูกต้องตามตัวตน สำหรับแพลตฟอร์มอย่าง TradingView ซึ่งจัดการข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อน รวมถึงข้อมูลเข้าสู่ระบบ การซื้อขาย และข้อมูลส่วนบุคคล การนำมาตรฐาน SSL/TLS ที่แข็งแกร่งมาใช้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความไว้วางใจของผู้ใช้และปฏิบัติตามข้อกำหนดของอุตสาหกรรม
แม้ว่า SSL จะเป็นโปรโตคอลดั้งเดิมที่เปิดตัวในช่วงทศวรรษ 1990 แต่ได้ถูกเลิกใช้งานไปเนื่องจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ปัจจุบัน การสื่อสารแบบปลอดภัยจะขึ้นอยู่กับโปรโตคอล TLS โดยเฉพาะเวอร์ชัน 1.2 และ 1.3 ซึ่งให้วิธีการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งขึ้นและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
โครงสร้างด้านความปลอดภัยของ TradingView น่าจะใช้งานหลายเวอร์ชันของ TLS เพื่อให้สามารถรองรับเบราว์เซอร์ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด:
เบราว์เซอร์ยุคใหม่โดยทั่วไปจะเลือกใช้ TLS 1.3 เป็นค่าเริ่มต้นเมื่อเชื่อมต่อเว็บไซต์ที่ปลอดภัยเช่น TradingView แต่ก็ยังรองรับ TLS 1.2 สำหรับรองรับ backward compatibility อยู่เสมอ
เพื่อยืนยันตัวตนอย่างมั่นใจระหว่างช่วงเวลาการสื่อสาร TradingView ใช้ใบรับรองดิจิทัลตามมาตรฐาน X.509 ซึ่งออกโดย Certificate Authorities (CAs) ที่เชื่อถือได้ ใบรับรองเหล่านี้ประกอบด้วย public keys ซึ่งใช้ในการ handshake เพื่อสร้างช่องทางเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ลูกค้าและเซิร์ฟเวอร์อย่างมั่นใจ
แนวทางบริหารจัดการใบรับรองอย่างเหมาะสมรวมถึง การต่ออายุใบรับรองก่อนหมดอายุ, การนำเสนอ Extended Validation (EV) หรือ Organization Validation (OV) certificates เมื่อจำเป็นเพื่อเพิ่มระดับความเชื่อถือ, รวมถึงตรวจสอบผ่าน Certificate Transparency logs เพื่อตรวจสอบกระบวนการออกใบ รับรอง ช่วยลดโอกาสถูกโจมตี man-in-the-middle หรือได้รับใบรับรองเท็จมาใช้อย่างผิดกฎหมาย
Cipher suites กำหนดวิธีดำเนินงานในการเข้ารหัสระหว่าง session ของ SSL/TLS — ระบุ algorithms สำหรับ key exchange, เข้ารหัสข้อมูล, MACs ฯลฯ
สำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นหรือคริปโตเคอเรนซี อย่าง TradingView:
โดยรวมแล้ว การเลือก cipher suites สมัยใหม่เหล่านี้ช่วยเสริมสร้างมาตรฐานในการป้องกันข้อมูลผู้ใช้จาก eavesdropping หรือ tampering ระหว่างส่งผ่านเครือข่ายได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม
แพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ซื้อขายหลักทรัพย์ ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น PCI DSS หากดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับบัตรเครดิต หรือตามแนวทางขององค์กรกำกับดูแล เช่น FINRA หรือ SEC ตามแต่ละเขตพื้นที่
ปรับแต่งค่าการตั้งค่า SSL/TLS ให้ทันสมัยตามคำแนะนำจากองค์กรต่าง ๆ อย่าง OWASP ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้าน cybersecurity เพื่อหลีกเลี่ยงช่องโหว่จาก protocol เก่า หลีกเลี่ยง cipher configurations อ่อนแอที่จะถูกโจมตีได้ง่ายๆ ด้วย Vulnerability assessments ผ่าน penetration testing จึงกลายเป็นกิจกรรมสำคัญสำหรับตรวจสอบจุดเสี่ยงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีจริง ๆ ขึ้น ทำให้แน่ใจว่าการดำเนินงานยังสอดคล้องกับมาตรฐานล่าสุดอยู่เส دائم
โลกไซเบอร์ตลอดเวลาพัฒนาไปพร้อมกับเทคนิคใหม่ๆ ของเหล่าวายร้าย โดยเฉพาะเรื่อง quantum computing ซึ่งสามารถทำลายระบบ cryptography แบบ RSA หรือ ECC ได้ง่ายขึ้น ดังนั้น:
อีกทั้ง,
Security audits มีบทบาทสำคัญ—ช่วยตรวจสอบว่าการติดตั้งระบบตรงตาม best practices ปัจจุบัน ทั้งเรื่อง protocol versions cipher suite validity ใบรับรอง HTTP Strict Transport Security headers รวมถึง enforcement ของ PFS ฯลฯ เพื่อลดช่องโหว่ที่จะถูกรุกไหลเข้าไปทำอะไรเสียหายได้ง่ายๆ
สำหรับผู้ใช้งานออนไลน์ลงทุนผ่านแพล็ตฟอร์มหรือบริการใดก็ตาม เรื่อง encryption เข้มข้นคือหัวใจหลัก:
หากไม่ได้ติดตามเทคนิคใหม่ๆ ระบบเก่าๆ อาจเปิดช่องให้อาชญากรรมไซเบอร์ต่าง ๆ เข้ามาโจมตีหรือขโมยทรัพย์สินได้ง่ายกว่าเดิม ด้วย vulnerabilities จาก protocols เก่า เช่น BEAST, Logjam เป็นต้น
แม้ว่าส่วนใหญ่ผู้ใช้ทั่วไปจะพึ่งพา browser อัตโนมัติเมื่อเข้าเว็บไซต์ HTTPS — แสดงด้วยไอ콘รูปแม่กุญแจ— ก็สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเองได้ดังนี้:
กระบวนนี้ช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่าการเชื่อมนั้น ใช้ protocol รุ่นใหม่อย่าง TLS 1.3 จริงหรือไม่ มากกว่าเว่อร์เก่า susceptible ต่อ vulnerabilities ต่าง ๆ
JCUSER-WVMdslBw
2025-05-26 23:40
TradingView ใช้มาตรฐาน SSL/TLS อะไรบ้าง?
Secure Sockets Layer (SSL) และ Transport Layer Security (TLS) เป็นโปรโตคอลพื้นฐานที่ปกป้องข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกันบนอินเทอร์เน็ต พวกเขาทำการเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งระหว่างอุปกรณ์ของผู้ใช้และเว็บเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้แน่ใจในความลับ ความสมบูรณ์ และความถูกต้องตามตัวตน สำหรับแพลตฟอร์มอย่าง TradingView ซึ่งจัดการข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อน รวมถึงข้อมูลเข้าสู่ระบบ การซื้อขาย และข้อมูลส่วนบุคคล การนำมาตรฐาน SSL/TLS ที่แข็งแกร่งมาใช้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความไว้วางใจของผู้ใช้และปฏิบัติตามข้อกำหนดของอุตสาหกรรม
แม้ว่า SSL จะเป็นโปรโตคอลดั้งเดิมที่เปิดตัวในช่วงทศวรรษ 1990 แต่ได้ถูกเลิกใช้งานไปเนื่องจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ปัจจุบัน การสื่อสารแบบปลอดภัยจะขึ้นอยู่กับโปรโตคอล TLS โดยเฉพาะเวอร์ชัน 1.2 และ 1.3 ซึ่งให้วิธีการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งขึ้นและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
โครงสร้างด้านความปลอดภัยของ TradingView น่าจะใช้งานหลายเวอร์ชันของ TLS เพื่อให้สามารถรองรับเบราว์เซอร์ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด:
เบราว์เซอร์ยุคใหม่โดยทั่วไปจะเลือกใช้ TLS 1.3 เป็นค่าเริ่มต้นเมื่อเชื่อมต่อเว็บไซต์ที่ปลอดภัยเช่น TradingView แต่ก็ยังรองรับ TLS 1.2 สำหรับรองรับ backward compatibility อยู่เสมอ
เพื่อยืนยันตัวตนอย่างมั่นใจระหว่างช่วงเวลาการสื่อสาร TradingView ใช้ใบรับรองดิจิทัลตามมาตรฐาน X.509 ซึ่งออกโดย Certificate Authorities (CAs) ที่เชื่อถือได้ ใบรับรองเหล่านี้ประกอบด้วย public keys ซึ่งใช้ในการ handshake เพื่อสร้างช่องทางเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ลูกค้าและเซิร์ฟเวอร์อย่างมั่นใจ
แนวทางบริหารจัดการใบรับรองอย่างเหมาะสมรวมถึง การต่ออายุใบรับรองก่อนหมดอายุ, การนำเสนอ Extended Validation (EV) หรือ Organization Validation (OV) certificates เมื่อจำเป็นเพื่อเพิ่มระดับความเชื่อถือ, รวมถึงตรวจสอบผ่าน Certificate Transparency logs เพื่อตรวจสอบกระบวนการออกใบ รับรอง ช่วยลดโอกาสถูกโจมตี man-in-the-middle หรือได้รับใบรับรองเท็จมาใช้อย่างผิดกฎหมาย
Cipher suites กำหนดวิธีดำเนินงานในการเข้ารหัสระหว่าง session ของ SSL/TLS — ระบุ algorithms สำหรับ key exchange, เข้ารหัสข้อมูล, MACs ฯลฯ
สำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นหรือคริปโตเคอเรนซี อย่าง TradingView:
โดยรวมแล้ว การเลือก cipher suites สมัยใหม่เหล่านี้ช่วยเสริมสร้างมาตรฐานในการป้องกันข้อมูลผู้ใช้จาก eavesdropping หรือ tampering ระหว่างส่งผ่านเครือข่ายได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม
แพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ซื้อขายหลักทรัพย์ ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น PCI DSS หากดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับบัตรเครดิต หรือตามแนวทางขององค์กรกำกับดูแล เช่น FINRA หรือ SEC ตามแต่ละเขตพื้นที่
ปรับแต่งค่าการตั้งค่า SSL/TLS ให้ทันสมัยตามคำแนะนำจากองค์กรต่าง ๆ อย่าง OWASP ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้าน cybersecurity เพื่อหลีกเลี่ยงช่องโหว่จาก protocol เก่า หลีกเลี่ยง cipher configurations อ่อนแอที่จะถูกโจมตีได้ง่ายๆ ด้วย Vulnerability assessments ผ่าน penetration testing จึงกลายเป็นกิจกรรมสำคัญสำหรับตรวจสอบจุดเสี่ยงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีจริง ๆ ขึ้น ทำให้แน่ใจว่าการดำเนินงานยังสอดคล้องกับมาตรฐานล่าสุดอยู่เส دائم
โลกไซเบอร์ตลอดเวลาพัฒนาไปพร้อมกับเทคนิคใหม่ๆ ของเหล่าวายร้าย โดยเฉพาะเรื่อง quantum computing ซึ่งสามารถทำลายระบบ cryptography แบบ RSA หรือ ECC ได้ง่ายขึ้น ดังนั้น:
อีกทั้ง,
Security audits มีบทบาทสำคัญ—ช่วยตรวจสอบว่าการติดตั้งระบบตรงตาม best practices ปัจจุบัน ทั้งเรื่อง protocol versions cipher suite validity ใบรับรอง HTTP Strict Transport Security headers รวมถึง enforcement ของ PFS ฯลฯ เพื่อลดช่องโหว่ที่จะถูกรุกไหลเข้าไปทำอะไรเสียหายได้ง่ายๆ
สำหรับผู้ใช้งานออนไลน์ลงทุนผ่านแพล็ตฟอร์มหรือบริการใดก็ตาม เรื่อง encryption เข้มข้นคือหัวใจหลัก:
หากไม่ได้ติดตามเทคนิคใหม่ๆ ระบบเก่าๆ อาจเปิดช่องให้อาชญากรรมไซเบอร์ต่าง ๆ เข้ามาโจมตีหรือขโมยทรัพย์สินได้ง่ายกว่าเดิม ด้วย vulnerabilities จาก protocols เก่า เช่น BEAST, Logjam เป็นต้น
แม้ว่าส่วนใหญ่ผู้ใช้ทั่วไปจะพึ่งพา browser อัตโนมัติเมื่อเข้าเว็บไซต์ HTTPS — แสดงด้วยไอ콘รูปแม่กุญแจ— ก็สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเองได้ดังนี้:
กระบวนนี้ช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่าการเชื่อมนั้น ใช้ protocol รุ่นใหม่อย่าง TLS 1.3 จริงหรือไม่ มากกว่าเว่อร์เก่า susceptible ต่อ vulnerabilities ต่าง ๆ
คำเตือน:มีเนื้อหาจากบุคคลที่สาม ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน
ดูรายละเอียดในข้อกำหนดและเงื่อนไข